Top
  /  บทความ   /  ดูแลผิวพรรณ   /  กระเกิดจากอะไร มีวิธีรักษายังไงบ้าง
กระเกิดจากอะไร มีกี่ชนิด มีวิธีรักษายังไงบ้าง

กระเกิดจากอะไร มีกี่ชนิด มีวิธีรักษายังไงบ้าง

กระคืออะไร

กระ คือจุดสีน้ำตาลหรือสีดำเล็ก ๆ บนใบหน้า มักจะกระจายอยู่บริเวณโหนกแก้ม ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีจุดด่างดำต่างๆบนใบหน้า สร้างความกังวลใจและลดทอนความมั่นใจของผู้ที่มีกระบนใบหน้า บางคนอาจแก้ปัญหาด้วยการทารองพื้นทับ หรือใช้คอนซีลเลอร์กลบ แต่ก็ไม่ได้จัดการปัญหาที่ต้นตอ

เวลาเผยหน้าสดหรือตอนที่เครื่องสำอางเลือนหายไปแล้ว จุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลบนใบหน้าก็จะปรากฎชัดขึ้นมาอยู่ ดังนั้นเรามาทำความรู้สึกกับกระให้ละเอียดยิ่งขึ้น พร้อมทั้งวิธีรักษาให้หายไปจากใบหน้าอย่างถาวร

กระเกิดจากอะไร

dark spot

แสงแดด

คือปัยจัยหลักของการเกิดกระบนใบหน้า เนื่องจากแสงแดดมีรังสียูวี ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ใต้ผิวหนังผลิตเม็ดสีหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเมลานินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลหรือสีดำคล้ำบนผิวหน้าได้นั่นเอง

สีผิว

คนที่มีสีผิวขาวมักมีโอกาสเป็นกระได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวสีเข้ม คือเมื่อถูกแสงแดดแทนที่สีผิวจะดำหรือคล้ำขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ดันกลายเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลดำแทน เนื่องจากคนที่มีสีผิวขาวจะมีเมลานินน้อยอยู่แล้ว เมื่อถูกแสงแดดกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสี จึงสังเกตเห็นได้ง่ายและชัดเจนกว่าคนสีผิวเข้ม

ฮอร์โมน

โดยส่วนใหญ่ผู้หญิงมีโอกาสที่หน้าเป็นกระได้มากกว่าผู้ชายถึงร้อยละ 80 เลยทีเดียว เนื่องจากผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศหญิง หรือฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีบนชั้นผิวหนัง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ และคนที่กินยาคุม จะมีฮอร์โมนเพศหญิงสูงกว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งทำให้มีโอกาสเกิดกระได้มากยิ่งขึ้น

พันธุกรรม

สำหรับคนที่มีพ่อแม่เป็นกระ มักจะมีโอกาสที่ตนเองจะเป็นด้วยมากกว่าคนทั่วไป เช่น แม้จะโดนแสงแดดเหมือนกันเป็นระยะเวลาเท่ากัน แต่คนที่มีพันธุกรรมเหล่านี้ หน้าจะเป็นกระได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไปนั่นเอง

ชนิดของกระ

girl with dark spot

กระตื้น

มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาล ไม่ค่อยเข้ม ขอบเขตไม่ชัดเจน มีขนาดประมาณ 0.5 เซนติเมตร มักพบบริเวณโหนกแก้ม จมูก สำหรับคนผิวขาวจะพบได้ในบริเวณลำคออีกด้วย และจะมีสีเข้มขึ้นเมื่อโดนแดดบ่อย ๆ และจะจางลงได้เองเมื่อไม่ได้โดนแดดระยะนึง สามารถใช้ครีมลดกระทาช่วยได้

กระลึก

มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ เห็นขอบเขตไม่ได้ชัดเจน มักพบได้บริเวณโหนกแก้ม ขมับ และจมูก รักษายากและใช้เวลานานกว่ากระตื้น เพราะเกิดอยู่ในผิวหนังชั้นใน หากโดนแดดมาก ๆ ก็จะมีสีเข้มขึ้น และรักษายากขึ้น ต้องทากันแดด และใช้ครีมรักษากระทาร่วมด้วย และค่อนข้างจะใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล

กระแดด

มีลักษณะเป็นจุด เป็นดวง เป็นแผ่น หรือเป็นปื้นสีน้ำตาล เห็นขอบเขตชัดเจน มีขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตร มักพบได้หลายบริเวณที่ร่างกายโดนแดดเป็นระยะเวลานาน เช่น ใบหน้า ลำคอ ลำตัว หลังฝ่ามือ พบได้ในผู้ที่มีอายุ หรือคนที่ต้องทำงานโดนแดดเป็นประจำ ซึ่งควรป้องกันด้วยการสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด สวมหมวก พกร่ม ใส่หน้ากากอนามัย หรือสวมถุงมือ เป็นต้น แต่ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหากไม่จำเป็น แต่ก็สามารถรักษาด้วยการทาครีมได้เช่นกัน

กระเนื้อ

มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อเล็ก ๆ นูน ๆ สีค่อนข้างเข้ม และมีโอกาสที่จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นได้เรื่อย ๆ หรืออาจจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นก็ได้เช่นกัน มักพบบริเวณใบหน้า ลำคอ ลำตัว หรือใต้รักแร้ เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการโดนแสงแดด พันธุกรรม ผิวหนังชั้นกำพร้าเจริญเติบโตผิดปกติ หรืออายุที่มากขึ้น กระเนื้อไม่มีอันตรายใด ๆ รักษาได้หลายวิธี อาจจะได้ด้วยการยิงเลเซอร์ การจี้  หรือการขูดเอาเนื้อเยื่อที่เป็นกระออก เป็นต้น

วิธีรักษากระ

apply-cream
apply-cream

ใช้ครีมรักษากระ

ใช้ครีมที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการรักษากระ ซึ่งมีขายตามท้องตลาดทั่วไปมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้ดูรายละเอียดข้อมูลส่วนผสมและหาครีมที่มีคุณภาพด้วยตัวเอง

ใช้เรตินอยด์

เป็นการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารเรตินอยด์ แต่มักไม่ค่อยเห็นผลเท่าที่ควร

ใช้เลเซอร์

เป็นวิธีการรักษากระที่ค่อนข้างรวดเร็ว ด้วยการยิงเลเซอร์ไปตรงบริเวณที่เป็น ค่อนข้างปลอดภัย แต่อาจมีผลข้างเคียงทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ และกลับมาเป็นซ้ำได้ ซึ่งผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคล

ใช้แสงผสม

คล้ายการใช้เลเซอร์ แต่เป็นการใช้แสงผสมยิงไปบริเวณที่เป็นกระแทน

ผ่าตัดด้วยความเย็น

ด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวแช่แข็งเข้าช่วยในการผ่าตัด ซึ่งเหมาะกับการรักษากระเนื้อ แต่อาจไม่สามารถรักษากระได้ในทุกจุด

การลอกหน้า

เป็นการลอกหน้าด้วยน้ำยาเคมี เพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว ทำให้กระจางลง และมีสีผิวที่ขาวขึ้นได้ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย และไวต่อสารเคมี

สรุป

จะเห็นได้ว่าวิธีรักษากระมีให้เลือกอยู่หลายวิธีเช่นกัน แต่วิธีที่ง่าย ปลอดภัย และไม่ค่อยมีผลข้างเคียง ก็คือการใช้ครีมรักษากระนั่นเอง ซึ่งหากใครยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ตัวไหนดี เรามีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาแนะนำ นั่นก็คือ นาโน มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีม จีพีโฟร์จี หรือที่เรียกกันติดปากว่า ครีมฝาเขียว นั่นเอง

lachule nano moisturizer gp4g

โดยครีมตัวนี้มีสารสกัดจากพืช แพลงก์ตอนทะเล สาหร่ายสีแดง วิตามินอี วิตามินบี 3 และสารสกัดจากธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหน้า ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวหรือเมลานิน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าระหว่างวัน ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง จัดการปัญหาหน้าเป็นกระที่ต้นตอ การันตีผลลัพธ์ได้จากผู้ใช้จริงที่ใช้ดีแล้วจึงบอกต่อ

v

At vero eos et accusamus et iusto odio dignissimos qui blanditiis praesentium voluptatum.