ฝ้าเกิดจากอะไร ทำยังไงถึงจะหาย
ฝ้าคือรอยปื้นหรือรอยแถบสีน้ำตาลอมดำที่อยู่บนใบหน้า ตามบริเวณแก้ม โหนกแก้ม หน้าผาก หรือบริเวณรอบคิ้วและปาก ซึ่งรอยนี้สีจะค่อย ๆ เข้มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป จนเห็นได้อย่างชัดเจน และโดยส่วนใหญ่จะพบมากในผู้หญิงช่วงวัยกลางคน เฉลี่ยอายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งสร้างความหนักอกหนักใจให้กับใครสาวเล็กสาวใหญ่หลายคน แล้วสาเหตุของฝ้าเกิดจากอะไร เราไปอ่านกันดีกว่าค่ะ
สาเหตุของการเกิดฝ้า
1.แสงแดด
ในแสงแดดจะมีรังสียูวีอยู่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหน้า โดยเฉพาะแสงแดดในช่วง 10.00-14.00น. จะเป็นช่วงเวลาที่แดดจัดมากที่ต้อง ซึ่งต้องระวังเป็นพิเศษ โดยรังสียูวีจะไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ให้เกิดการผลิตเม็ดสีเมลานินเกิดขึ้น โดยมีหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสียูวี ซึ่งมีลักษณะเป็นจุดหรือเป็นรอยสีน้ำตาลอ่อนจนถึงเข้มบนผิวหน้า หรือที่เรียกว่าฝ้านั่นเอง
ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและผิวหน้ามากที่สุด ซึ่งก็คือช่วงสายถึงช่วงบ่ายนั่นเอง แต่หากจำเป็นต้องโดดแสงแดดในช่วงนี้ ให้ป้องกันโดยทาครีมกันแดดก่อนออกมาข้างนอก สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด สวมหมวกปีกกว้างเพื่อบดใบใบหน้าจากแสงแดด หรือจะพกร่มที่กันรังสียูวีด้วยก็จะปกป้องผิวหน้าและผิวหนังได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
2.ความร้อน
ความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าบนใบหน้าได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากแสงแดด ความร้อนจากเตาทำอาหาร เวลาเราทำกับข้าว ความร้อนจากการอบไอน้ำทำผมเพื่อเสริมสวย หรือแม้กระทั่งความร้อนจากการอบซาวน่าก็เช่นกัน
ดังนั้นเราจึงควรอยู่ให้ห่างจากความร้อนทุกชนิด หรือหลีกเลี่ยงให้อยู่กับความร้อนน้อยที่สุด ไม่อยู่กับความร้อนชนิดต่าง ๆ เป็นเวลานานเกินไป หรือบ่อยเกินไป ก็จะช่วยป้องกันผิวหน้าจากการเกิดฝ้าได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
3.ฮอร์โมน
ฮอร์โมนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะกระตุ้นทำเซลล์ใต้ชั้นผิวหนังผลิตเม็ดสีออกมามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโพรเจสเทอโรน ซึ่งสำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือหญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด จะมีฮอร์โมน 2 ชนิดนี้อยู่มาก จึงทำให้เกิดการผลิตเม็ดสีใต้ชั้นผิวหนังได้มากยิ่งขึ้น แม้แต่คนที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนก็เช่นกัน เพราะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานยาคุมบ่อยจนเกินไป หากไม่จำเป็น หรือควรหาวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นมาเป็นตัวช่วยแทน ส่วนคนที่กำลังตั้งครรภ์ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีเป็นพิเศษ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเบาๆ บ้าง เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว จะได้ปรับสมดุลฮอร์โมนไปในตัว
4.ความเครียด
ความเครียดก็ส่วนหนึ่งอีกเช่นกัน ที่ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนไปกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสี จนเกิดเป็นฝ้าบนผิวหน้าได้
ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีจัดการกับความเครียด หรือหากิจกรรมที่ชอบและผ่อนคลายทำ เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเพลง ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ ทำอาหาร ทำสมาธิ เป็นต้น
5.กรรมพันธุ์
มีงานวิจัยพบว่าผู้ที่มีพ่อแม่หน้าเป็นฝ้า ตัวเองมีโอกาสที่จะเป็นด้วยสูงถึง 30-50% เลยทีเดียว ดั้งนั้นจึงต้องใส่ใจดูแลตัวเองให้ดีเป็นพิเศษ เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดฝ้าบนผิวหน้านั่นเอง
6.เครื่องสำอาง
ในเครื่องสำอางบางชนิดมีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้าอยู่ เช่น สี น้ำหอม แอลกอฮอล์ สารกันเสีย เป็นต้น ซึ่งสำหรับบางคนจะแพ้ส่วนผสมต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เกิดการระคายเคือง เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นแดงคัน จนเกิดเป็นฝ้าบนผิวหน้าในที่สุด
ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้า เลือกเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนังแล้วนั่นเอง
7.ดื่มน้ำน้อยเกินไป
น้ำเปล่าคือสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ การดื่มน้ำน้อย ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ดื่มแต่น้ำหวาน น้ำอัดลม ชานมไข่มุก จะทำให้โอกาสของการเกิดฝ้าเพิ่มขึ้น
เพราะการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากน้ำจะไปเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า ช่วยป้องกันการเกิดฝ้าได้
8.นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
บางคนทำงานหนักติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จนไม่มีเวลาได้พักผ่อน ร่างกายอ่อนล้า เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว และสะสมความเครียดโดยไม่รู้ตัว ทำให้เซลล์ต่าง ๆ เสื่อมสภาพลง บวกกับความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เร่งการเกิดฝ้าได้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้นเราจึงควรจัดสรรเวลาการทำงานให้ดี แบ่งเวลาให้ชัดเจน ไม่ให้เวลาทำงานไปรบกวนเวลาในการพักผ่อนนอนหลับของเรา จนทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม และมีผลให้หน้าเป็นฝ้าได้ในที่สุด
จะเห็นว่าสาเหตุของการเกิดฝ้านั้นมีอยู่มากมาย แต่หากเราดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเองดีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะโอกาสที่จะเกิดฝ้าจะมีได้น้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเอง แต่หากใครที่เป็นฝ้าไปแล้ว ก็อย่าเพิ่งเครียดจนเกินไป เพราะเรามีวิธีแก้ไขดี ๆ มาฝาก
นั่นก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลฝ้าของลาชูเล่ ซึ่งนำเข้าสารสกัดจากฝรั่งเศส และมาปรับสูตรให้เข้ากับชาวเอเชียและคนไทยอย่างเรา โดยสารสกัดแต่ละตัวคัดสรรมาจากธรรมชาติและมีประโยชน์ต่อผิวหน้า เช่น แพลงก์ตอนทะเล สาหร่ายสีแดง สเต็มเซลล์สดจากพืช วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี เป็นต้น มีทั้งสบู่ล้างหน้าช่วยผลัดเซลล์ผิว เซรั่มดูแลและฟื้นฟูผิว ครีมทาฝ้าช่วยปรับโครงสร้างผิว ครีมกันแดดป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ ซึ่งเป็นเซตแนะนำอันเป็นที่นิยมของเรา
โดยสารสกัดเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าของเราให้แข็งแรง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหน้าเต่งตึง กระชับ ไม่หย่อนคล้อยง่าย เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน จัดการปัญหาการเกิดฝ้าที่ต้นตอ พิสูจน์แล้วจากผู้ที่ใช้จริง ใช้ดีแล้วจึงบอกต่อ หากใครที่กำลังหาตัวช่วยรักษาฝ้าอยู่ละก็ ให้ผลิตภัณฑ์ของลาชูเล่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคุณสิคะ
